ประเด็นร้อน
ศาลรับฟ้องตัดสิทธิ์ NCP ประมูลแหลมฉบังเฟส 3
โดย ACT โพสเมื่อ Apr 27,2019
- - ขอบคุณข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ - -
นายเผด็จ เมธิยานนท์ รองประธานบริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท นทลิน จำกัด ผู้ประสานงานกลุ่ม NPC กล่าวว่า ได้มาร้องศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 ในโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และให้คณะกรรมการหยุดพิจารณาซองที่เหลือทั้งหมดก่อนจนกว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นต่อไป เบื้องต้นนั้นศาลรับฟ้องแล้วได้หมายเลขคดี 818/2562 ขณะนี้รอการเรียกเพื่อสอบเพิ่มเติมของศาลเท่านั้น
โดยในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้มีหนังสือแจ้งคำสั่งมายังกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ฉบับลงวันที่ 23 เมษายน 2562 ว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) เป็นผู้ไม่ผ่านการประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 ซองคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ เนื่องจากในส่วนสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ของกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) มีความไม่ครบถ้วนและความไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในเอกสารการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal) ของโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ดังนั้น กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนดังต่อไปนี้
1. กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ได้ดำเนินการยื่นเอกสารข้อเสนอด้านคุณสมบัติทั่วไปโดยถูกต้องครบถ้วนตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal) โดยในส่วนของเอกสารสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่นั้น กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ได้ดำเนินการจัดทำและยื่นสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ตามแบบที่กำหนด พร้อมทั้งให้ตัวแทนของแต่ละสมาชิกลงนามและประทับตราสำคัญบริษัทในหน้าลงนามของสัญญาฉบับดังกล่าวโดยครบถ้วนแล้ว อีกทั้ง กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ก็ดำเนินการนำส่งสัญญากิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ฉบับใหม่ให้แก่ กทท. ตามที่ กทท. ได้ขอเพิ่มเติม ดังนั้น กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) จึงมีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้องตามเอกสารการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal) ทุกประการ มิได้ขาดคุณสมบัติตามที่กำหนดในเอกสารการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal) แต่อย่างใด
2 กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) มีความมั่นใจว่ามูลค่าผลประโยชน์ตอบแทนตลอดอายุสัญญาสัมปทาน 35 ปีซึ่งกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ยื่นเสนอให้แก่ กทท. นั้น มีมูลค่าผลประโยชน์ตอบแทนเป็นจำนวนเงินที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นได้อย่างแน่นอน ดังนั้น หากกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ได้รับโอกาสให้แข่งขันในการคัดเอกชนเข้าร่วมโครงการฯ ในครั้งนี้อย่างเต็มที่ เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าประโยชน์สูงสุดย่อมจะตกอยู่ประเทศชาติ อันเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการฯ หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ประเทศชาติอาจได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินมหาศาลซึ่งจะเป็นปัญหาตามมาว่าผู้ใดหรือหน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายดังกล่าว
3. กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ประกอบด้วยบริษัท นทลิน จำกัด บริษัท พรีมารีน จำกัด (มหาชน) บริษัท แอโซซิเอท อินฟินิตี้ จำกัด และ บริษัท ไชน่าเรลเวย์ คอนสตรั๊คชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CRCC) ซึ่งกลุ่มบริษัทร่วมค้าที่ล้วนแต่มีประสบการณ์อย่างสูงในทุกด้าน ทั้งในการก่อสร้างและบริหารท่าเรือและมีความพร้อมด้านการเงินการลงทุนและซึ่งผ่านคุณสมบัติของเอกสารการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal) อย่างแน่นอนโดยเฉพาะในซองที่ 2
เบื้องต้นเมื่อกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ได้รับทราบผลการพิจารณาจาก กทท. ดังกล่าวข้างต้น กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ได้ทำการยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ไปเมื่อวันที่ 25 เมษายน
“วันนี้ (วันที่ 26 เมษายน) ทางกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ได้ใช้สิทธิยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อให้พิจารณาเพิกถอนคำสั่งของ กทท. ที่มีต่อกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NCP) ดังกล่าว รวมถึงจะขอให้ศาลพิจารณาเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวเพื่อระงับการดำเนินกระบวนการคัดเลือกเอกชนเพื่อร่วมลงทุนในโครงการพิพาทในขั้นตอนต่อไปไว้จนกว่าศาลปกครองกลางจะมีคำพิพากษา”
#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน